Google Web Designer ถือเป็นเครื่องมือที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน โดยมีความพิเศษคือการใช้งานที่ง่าย และออกแบบโฆษณา หรือภาพเคลื่อนไหวได้ตรงใจเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้นเอง โดยเจ้าโปรแกรมนี้ใช้งานเพื่อเขียนภาษา HTML5 เป็นหลัก โดยถูกพัฒนาขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 2013 ถ้าถามว่าทำไมโปรแกรมนี้มันถึงดีนัก คงต้องย้อนกลับไปในสมัยที่เรามีเครื่องมือเขียนที่น้อยมาก บางคนเลือกที่จะเขียนผ่าน Notepad เพียว ๆ หรือดีขึ้นมาหน่อยก็มี Dreamweaver ของค่าย Adobe มาให้ใช้ ทำให้การทำงานนั้นง่ายมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเรียนภาษาที่ยุ่งยากมากนัก แต่การที่เราไม่รู้ภาษาเบื้องต้นของ HTML หรือ CSS เลยก็อาจจะลำบากหน่อย อาจจะทำได้แค่เว็บไซต์อย่างง่าย ๆ จนกระทั่งเริ่มมีการแข่งขันในกลุ่มตลาดโปรแกรมเขียนเว็บสำเร็จรูปมากขึ้น ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ ก็เลยมีตัวเลือกใช้กันมาก โดยเฉพาะเจ้าที่ให้บริการฟรี และแน่นอน Google Web Designer สามารถใช้งานได้แบบฟรี ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
เกริ่นกันมามากแล้ว ลองเข้ามาดูที่หน้าตาโปรแกรมกันบ้าง โดยหน้าต่างการดีไซน์ของโปรแกรมนั้น จะออกโทนมืด ๆ ดูสบายตามองหาไอคอนต่าง ๆ ได้ง่าย บางคนที่เคยใช้โปรแกรมอย่าง Dreamweaver เมื่อลองเข้ามาใช้งานครั้งแรก อาจจะสังเกตุเห็นได้ถึงความเหมือนของของ UI ต่าง ๆ ซึ่งไม่น่าแปลกใจ เพราะทางผู้พัฒนา Google Web Designer เคยเป็นทีมงานของทางบริษัท Adobe มาก่อนนั่นเอง ถ้าเอาเข้าจริง ๆ โปรแกรมส่วนใหญ่เดียวนี้หน้าตาเหมือนกันไปหมด เป้าหมายที่แท้จริงไม่ใช้เพื่อความสวยงาม แต่เพื่อความสะดวกในการใช้งานเป็นหลัก แต่ถ้ามันสวยได้ก็ควรจะสวย ทีนี้มาถึงจุดที่อาจจะดูขัด ๆ กันเสียหน่อย ถ้าดูตามชื่อโปรแกรมมันก็ควรจะเป็นโปรแกรมสำหรับออกแบบเว็บไซต์จริงไหม แต่แท้จริงแล้ว เป้าหมายของมันอยู่ที่การสร้างภาพเคลื่อนไหวแบบ CSS3 ที่ใช้ในการทำโฆษณาในเว็บไซต์ที่เขียนด้วย HTML5 นั่นเอง ในขณะที่หลายคนเลือกที่จะใช้มันในการสร้างเว็บไซต์ ซึ่งเราก็ไมได้ห้าม เพียงแต่เครื่องมือจะไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าที่ควร เหมือนกับโปรแกรมอื่น ๆ ที่ใช้สำหรับสร้างเว็บไซต์โดยเฉพาะ แถมยังไม่สามารถเปิดไฟล์นามสกุล .html ที่ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยตรงผ่าน Google Web Designer เอาจริง ๆ อยากให้มันเปลี่ยนชื่อเป็น Google Ad Designer คงจะเหมาะกับการใช้งานของมันมากกว่า ถ้าจะให้แนะนำการใช้งาน ขอบอกอย่างแรกเลยคือมันอาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่เลย และบางครั้งก็อาจจะทำให้งานของมืออาชีพนั้นดูช้าลงด้วย คาดว่าในอนาคตจะมีการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพขึ้นในเร็ววัน